top of page

กัญชาสายพันธุ์หางกระรอก (SATIVA)

 

1. สายพันธุ์ซาติวา (Cannabis Sativa)มีแหล่งกำเนิดจากหลายประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก โคลัมเบีย ตอนกลางของทวีปแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชอบอากาศร้อน ลำต้นหนา ความสูงประมาณ 6 เมตร ใบยาวเรียว สีเขียวอ่อน ใช้เวลาในการเติบโตประมาณ 9-16 สัปดาห์ถึงจะเก็บเกี่ยวได้ และให้สาร THC ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทสูงกว่าอินดิกา

 

กัญชาไทย “หางกระรอก” หรือชื่อในภาษาอังกฤษคือ “Thai stick” ถิ่นกำเนิดที่ปลูกอยู่ในประเทศไทยพบได้ตามเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร ในช่วงปี 70 และ 80 ของสหรัฐอเมริกา กัญชาหางกระรอกเคยถูกยกย่องว่าติดหนึ่งในห้าสายพันธุ์กัญชาที่ดีที่สุดในโลกเพราะมันคือกัญชาสายพันธุ์ซาติว่า (Sativa) ที่มีค่า THC ที่สูงมาก เมื่อสูบเข้าไปจะทำให้อารมณ์ดี ยังทำงานได้ปกติ ไม่คลื่นไส้เวียนหัว มีสติในการทำงานเต็มร้อย และที่สำคัญคือยังขับรถได้ไม่มีปัญหา 

 

ประสิทธิภาพ

ผ่อนคลาย (Relaxed) – 100%

มีสมาธิ (Focused) – 95%

เบิกบาน (Uplifted) – 95%

มีความสุข (Happy) – 44%

มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative) – 28%

 

การแพทย์

อาการหดหู่ (Depression) – 100%

ความเครียด (Stress) – 24%

ความเมื่อยล้า (Fatigue) – 10%

เบื่ออาหาร (Lack of Appetite) – 8%

อาการปวดหัว (Headaches) – 8%

 

ผลข้างเคียง

ตาแห้ง (Dry Eyes) – 100%

ปากแห้ง (Dry Mouth) – 52%

เวียนหัว (Dizzy) – 51%

กระวนกระวาย (Anxious) – 14%

ปวดหัว (Headache) – 8%

 

________________________________________________________________

การปลูก

 

  • การปลูกกัญชาการเตรียมดิน : ควรไถพรวนดินก่อนปลูกอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อให้ดินเกิดความอ่อนตัว ถ่ายเทอากาศได้ดี และเป็นการทำลายวัชพืชไปในตัวด้วย หลังจากที่ไถพรวนดินเรียบร้อย ให้ทำเป็นร่องระบายน้ำสูง 50 ซม. แต่ละแถวมีระยะห่างกัน 100 ซม. จากนั้นให้ขุดหลุมกว้างประมาณ 40-50 ซม. ลึก 40-50 ซม. และให้มีระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 30-60 ซม. นอกจากนี้ยังสามารถรองก้นหลุมด้วยดินคลุกกับปุ๋ยคอกได้ โดยต้นกัญชาจะชอบดินร่วนปนทราย หรือดินที่มีความร่วนซุย ระบายน้ำได้ มีอินทรียวัตถุสูง และมีค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ระหว่าง 5.8-6  

  • การปลูก : บริเวณที่ปลูกกัญชาควรมีอากาศเย็น ประมาณ 19-28 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังไม่ค่อยชอบน้ำมากนัก หรือเฉลี่ยประมาณ 500-600 มิลลิเมตรต่อวงจรการปลูกแต่ละครั้ง ทำให้นิยมปลูกกัญชากันในเดือนกันยายนถึงกุมภาพันธ์ เพื่อให้ได้ช่อดอกที่สมบูรณ์ พร้อมเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 

  • การรดน้ำและใส่ปุ๋ย : สามารถรดน้ำ ใส่ปุ๋ยโดยเฉพาะปุ๋ยคอก เช่น มูลไก่ มูลวัว รอบ ๆ ต้นได้ทุกวัน และควรหมั่นกำจัดวัชพืชและฉีดยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอด้วย นอกจากเมื่อต้นโตใกล้ออกดอก ควรหมั่นพรวนดิน ตัดรากรอบ ๆ ต้น เพื่อให้ต้นเป็นพุ่มเตี้ย ไม่โตสูงจนเกินไป 

  • การคัดต้น : เมื่อปลูกกัญชาได้ประมาณ 45 วัน หรือมีความสูงประมาณ 50-60 ซม. ก็สามารถแยกได้แล้วว่าต้นไหนเป็นกัญชาตัวผู้หรือกัญชาตัวเมีย ให้ถอนกัญชาตัวผู้ทิ้ง เก็บไว้เฉพาะกัญชาตัวเมีย 

  • การเก็บเกี่ยว : ต้นกัญชาสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่อายุได้ 4 เดือนขึ้นไป หรือประมาณ 5-6 เดือน โดยทำได้ 2 วิธีคือ ถอนทั้งต้น หรือตัดครึ่งต้น และควรเก็บเกี่ยวในวันที่มีแสงแดดจัด เพราะจะทำให้มีสาร THC สูงมาก เมื่อเก็บเกี่ยวต้นกัญชาแล้ว ให้นำไปตากแดดจนแห้ง จากนั้นนำไปเคาะเมล็ดเพื่อใช้ทำพันธุ์ต่อไป 

 

วิธีจดแจ้งปลูกกัญชาให้ถูกกฎหมาย

ใครที่อยากปลูกต้นกัญชาให้ถูกกฎหมาย สามารถทำได้ผ่าน 3 ขั้นตอน ดังนี้

  1. ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ plookganja.fda.moph.go.th หรืออแอปพลิเคชั่น "ปลูกกัญ" ทั้งระบบ Andriod และ IOS

  2. จดแจ้งตามวัตถุประสงค์ 

  3. รับเอกสารจดแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์

 
 

 

 

 
 

 

 

Register to grow hemp.jpg

ซึ่งในการปลูกกัญชาสามารถทำได้ แต่ต้องแจ้ง ส่วนที่มีไว้ในครอบครองได้ คือ ช่อ ดอก ใบ กิ่ง ก้าน ราก ลำต้น และสามารถขายส่วนของพืชกัญชาได้ เช่น ใบ ดอก และลำต้น แต่หากต้องการขายเมล็ดพันธุ์ กิ่งพันธุ์ และต้นกล้า จะต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ. พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นอกจากนี้สามารถครอบครองและขายกัญชาที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% แต่หากมีปริมาณสารสกัด THC เกิน 0.2% จะต้องมีการขอและออกใบนุญาตยาเสพติดให้โทษทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนการผลิตและจำหน่ายสินค้าจากัญชา-กัญชงจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ที่มา Kapook.com

bottom of page